กลุ่มโรคเรื้อรังความรู้ทางการแพทย์ผู้สูงอายุ

ทำไมผู้หญิงถึงเป็นโรคพวก SLE, รูมาตอยด์, ไทรอยด์ ฯลฯ มากกว่าผู้ชายมาก (Manifia)

ทำไมผู้หญิงเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายเนื้อเยื่อตัวเอง
(Autoimmune disease) บ่อยกว่าผู้ชาย?
.
ถ้าไปดูสถิติโรคยอดฮิตของกลุ่มนี้ ก็จะพบว่า SLE ญ เป็นมากกว่า ช 9 เท่า, โรคไทรอยด์ต่ำ (Hashimoto’s) 10 เท่า, โรคไทรอยด์เป็นพิษ (Graves’) 5-10 เท่า, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ 3 เท่า
คำถามคือ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?
.
สองเหตุผลฮะ จำไว้เลย
เพราะ ญ มีโครโมโซม X ถึง 2 แท่ง และมีฮอร์โมน estrogen
.
.
ประเด็นแรกคือเรื่องโครโมโซม X
ถ้ายังจำกันได้ โครโมโซมมีรหัสที่เอาไว้สร้างโปรตีนอยู่ (เรียกว่ายีน) ซึ่งแต่ละแท่งก็มีแตกต่างกันไป
แต่ของโครโมโซม X ใน ญ มันจะมีการสุ่มปิดการทำงานยีนไปซักแท่งนึง เพื่อให้การสร้างโปรตีน เท่ากับฝั่งของผู้ชาย คือเหลือ X 1 แท่งเท่ากัน (พูดแบบเข้าใจง่ายนะ จริงๆ เรื่องนี้มันซับซ้อน มันไม่ได้สุ่ม off ทั้งแท่ง)
.
ปัญหาสำคัญคือ มันมีบางรหัสที่ ‘อาจ’ จะหนีจากการปิดการทำงานได้ ทำให้โปรตีนบางชนิดที่สร้างจากโครโมโซม X ใน ญ เปิดใช้งานสองแท่งเลย จึงสร้างออกมาเยอะมากๆ
โปรตีนที่เป็นประเด็นเลยคือ
.
✔️ เซนเซอร์ตรวจจับ DNA, RNA: (TLR7)
ตัวนี้ทำหน้าตรวจจับสารพันธุกรรม ถ้าเจอแล้ว มันจะสร้างสารชื่อ IFN type 1 ประสานงานให้นายพล T cell และ B cell ตอบสนองต่อสารนั้น
เดิมทีมันเอาไว้ดักพวก DNA, RNA ของไวรัสฮะ แต่ทีนี้ ถ้าคนนั้นซวย ดันมีนายพล T cell/B cell ที่ดันจดจำ DNA ของเราเองเข้าใจผิดเป็นเชื้อโรค
โอกาสที่นายพลพวกนี้จะรอดชีวิตแล้วออกมาทำงานได้มันสูงมากใน ญ เพราะว่า เวลาเม็ดเลือดขาวตัวอื่น เจอ DNA ของเราเองหลุดออกมา มีเซนเซอร์มากกว่าของ ช เลยสร้าง IFN ไปประสานได้รุนแรงกว่า พวกกบฏเลยโดนกระตุ้นเยอะ ออกมาทำงานได้มาก สุดท้ายกลายเป็น SLE
.
✔️ โปรตีนคำสั่งให้ B cell แปลงร่าง (CD40L)
เดิมทีโปรตีนตัวนี้ มันเป็นเหมือน ‘ภาษา’ ที่นายพล T cell คุยกับ B cell หลังจากคุยกันแล้ว B cell จะแปลงร่างเป็นร่างสุดท้ายแล้วหลั่งแอนติบอดีชนิดที่ดีที่สุดชื่อว่า IgG
ซึ่งการที่ ญ มีโปรตีนนี้เยอะกว่าปกติ ทำให้การประสานงานนี้มันเกิดไวมาก ดังนั้นถ้าตอนนั้นซวย มี B cell ที่เป็นกบฏ สร้างแอนติบอดีเล็งพวกเดียวกันเอง โอกาสที่จะรอดจากการคัดกรองแล้วออกมาทำงานนั้นสูงมาก เพราะ T cell กับ B cell เช็คกันไวเกิน
.
.
ประเด็นถัดมาคือฮอร์โมนเพศหญิง estrogen
.
ฮอร์โมนนี้เสริมการทำงานภูมิคุ้มกันหลายจุดมาก เช่น เสริมให้ IFN type 1 (ที่พูดไปเมื่อกี๊) สร้างได้มากขึ้น
เพิ่มการทำงานของโปรตีนชื่อ BAFF ทำให้ B cell ที่แปลงร่างมาสร้างแอนติบอดีแล้ว ทนทาน อยู่นานมากขึ้น
คือถ้าไม่ได้เป็นโรคอะไร คือดีมาก ทำให้ภูมิคุ้มกันของ ผญ ด้าน T cell, B cell ทำงานได้ดี
.
ปัญหาคือ ถ้าตอนนั้นมันมีกบฏ T cell, B cell ที่จำสารในร่างกายผิดเป็นเชื้อโรค มีโอกาสสูงมาก ที่ระบบร่างกายจะคัดกรองออกไม่ทัน เพราะสารกระตุ้น IFN มันช่วยประสานงานไวเกินไป แถมกบฏ B cell ยังตายยากขึ้นด้วย เพราะ BAFF คอยต่อชีวิต
.
.
ด้วยเหตุนี้แหละค่ะ เลยทำให้ผู้หญิง ที่มีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างเฉพาะโรคขึ้นมา ที่ทำให้ภูมิคุ้มกันจำสารตัวเองมากขึ้น ก็จะมีโอกาสพัฒนาเป็นโรค มากกว่าชาย เพราะภูมิมันประสานงานกันไวเกินค่ะ
โรคกลุ่มนี้เลยมักมากองอยู่กับหญิง
แต่ไม่ใช่ทุกโรคนะ มันก็จะมีโรคบางโรคเจอในผู้ชายเด่นกว่าเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นโรคที่กลไกมันเน้นภูมิคุ้มกันแนวหน้า (Innate immunity) จะตอบสนองรุนแรง
.
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อาจจะตั้งคำถามว่า
โถ แล้วโครโมโซม X เบิ้ลสองอัน กับ estrogen มันมีอะไรดี มีอะไรให้ ผญ ได้เปรียบบ้าง
คำตอบคือมีค่ะ estrogen ดูแลหลอดเลือดดีมาก ดังนั้นภาวะคอเลสเตอรอลแทรกผนังหลอดเลือด จะค่อนข้างช้ากว่าชาย จึงไม่แปลกที่โรคแนวๆ หัวใจขาดเลือดของ ผญ จะไปบูมช่วงหลังหมดประจำเดือนมากกว่า ในขณะที่ ผช อายุ 40-45 ก็เริ่มแล้วค่ะ
 
ทุกบทความไม่ได้เขียนโดยเพจนี้ เพียงคัดเลือกจากบทความที่น่าสนใจของเพจต่างๆที่น่าเชื่อถือ
ที่ผู้เขียนเป็นแพทย์ หรือผู้ที่อยู่ในแวดวงวิชาการที่มีเครดิตสูง สามารถติดตามต้นฉบับโดยคลิ๊กที่ลิ้งค์ด้านล่าง
เพื่อ Follow FB Page เพื่อได้เห็นบทความใหม่ๆได้เลยครับ