ความรู้ทางการแพทย์วัยรุ่น-วัยทำงาน

ภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไป (Tensia)

หญิง 67 ปี ใช้ยาปฏิชีวนะหลายชนิด เริ่มมีอาการท้องร่วง ปวดท้อง เป็นไข้ ส่องกล้องพบลำไส้ใหญ่ผิวบวม มีเนื้อตๅยหลุดลอกขึ้นมาเป็นหย่อมเหลืองๆ
.
อันนี้เป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไป แม้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่เกิดแล้วสยองขวัญมากค่ะ
.
หญิง 67 ปี ใช้ยาปฏิชีวนวะหลายชนิด ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา
ต่อมาเริ่มมีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว เป็นไข้ เป็นมาเรื่อยๆ ทุกวัน
เจาะเลือดพบ เม็ดเลือดขาวสูงถึง 36,000
ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscope) พบว่ามีผิวลำไส้ใหญ่แดงบวม กระจายทั่วเลย ที่สำคัญคือมี การบวมลอกขึ้นมาเป็นปุ่มๆ แบบในภาพ ซึ่งมันคือเนื้อตๅยที่มาคลุมเป็นเยื่อปลอมๆ (Pseudomembrane)
ตรวจชิ้นเนื้อพบว่าเป็นลำไส้ใหญ่อักเสบ ชนิดที่สร้างเนื้อเยื่อปลอมขึ้นมา ยืนยันด้วยผลตรวจอุจจาระหาเชื้อแบคทีเรีย Clostridioides difficile (Stool realtime PCR) ผลออกมาเป็นบวก
จึงวินิจฉัยเป็นภาวะติดเชื้อแบคทีเรีย C. difficile จากการได้รับยาปฏิชีวนะจนเชื้อโต ทำลำไส้อักเสบหลุดลอกเป็นเยื่อปลอมขึ้นมา (Clostridioides difficile-associated pseudomembranous colitis)
แพทย์ได้ให้การรักษาโดยใช้ยาปฏิชีวนะที่เล็งเชื้อนี้โดยเฉพาะคือ Metronidazole, Vancomycin และ admit รพ. ค่ะ
.
ภาวะนี้เกิดจาก ยาปฏิชีวนะที่กินๆ เข้าไป มันเริ่มไปทำลายแบคทีเรียในลำไส้ จนกระทั่งแบ่งตัวไม่ทัน ซึ่งยิ่งเริ่มมีอายุมากขึ้น + ปัญหาสุขภาพต่างๆ จะทำให้แบคทีเรียพวกนั้นแบ่งตัวทดแทนไม่ทัน
จนกระทั่งแบคทีเรียบางกลุ่มที่ไม่โดนยาปฏิชีวนะพวกนั้น ที่เป็นตัวร้าย ได้แบ่งตัวชนะ และครอบครองพื้นที่มากขึ้น
ซึ่งก็ต้องไปลุ้นค่ะว่าตัวไหนขึ้นมามีอำนาจแทน โดยทั่วไป ถ้าตัวไม่ค่อยแรงนัก มันจะไม่ค่อยเกิดอาการอะไร แต่จะหลั่งสารก่ออักเสบเรื้อรังจนกระทั่งเกิดเร่งภาวะดื้ออินซูลิน, เพิ่มความดัน, เพิ่มความเสี่ยงต่อซึมเศร้าแทน
แต่ถ้าตัวที่ขึ้นมาครองดันเป็น Clostridioides difficile ซวยเลยค่ะ เพราะพวกนี้ผลิต toxin A, toxin B เล่นงานเซลล์ผนังลำไส้ใหญ่ จนตๅย หลุดลอกออกมาเป็นศw กองๆๆๆ กันกลายเป็นเยื่อบางๆ คลุมผนังลำไส้ที่บวม แบบในภาพเลยค่ะ
.
.
ดังนั้นใช้ยาปฏิชีวนะเมื่อจำเป็นเท่านั้น คำว่าจำเป็นคือ ยืนยันโดยผู้เชี่ยวชาญแล้วว่า มันเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจริงๆ เพราะยาปฏิชีวนะส่วนใหญ่มันคือยาฆ่ๅเชื้อแบคทีเรียค่ะ
 
 
 
ทุกบทความไม่ได้เขียนโดยเพจนี้ เพียงคัดเลือกจากบทความที่น่าสนใจของเพจต่างๆที่น่าเชื่อถือ
ที่ผู้เขียนเป็นแพทย์ หรือผู้ที่อยู่ในแวดวงวิชาการที่มีเครดิตสูง สามารถติดตามต้นฉบับโดยคลิ๊กที่ลิ้งค์ด้านล่าง
เพื่อ Follow FB Page เพื่อได้เห็นบทความใหม่ๆได้เลยครับ
 

ผู้เขียนและแหล่งที่มาของข้อมูล FB PAGE
Link to Facebook FanPage