เกาท์ทำให้ข้อผิดรูปได้ ไม่ใช่แค่อักเสบปวดข้อเท่านั้น (Tensia)

ซึ่งก้อนที่ปูดขึ้นมาตามข้อเรียกว่า

ก้อนโทฟัส (Tophus)

.

โทฟัสคือก้อนที่เกิดจากผลึกยูริก (Monosodium urate crystal) ที่อักเสบเรื้อรังแล้วสะสมอยู่นอกข้อ มักจะเหลือต่อข้อนั้นพอดี

.

โรคเกาท์ (Gout) เกิดจากมีภาวะยูริกในเลือดสูง (Hyperuricemia) จนกระทั่งมีความเข้มข้นยูริกในข้อสูงจนรวมตัวเป็นผลึกยูริกชื่อ Monosodium urate crystal (MSU) สะสมในข้อ

.

ผลึก MSU ในข้อถือเป็นสิ่งแปลกปลอม เม็ดเลือดขาวจะพยายามเข้ามาจับกิน แล้วกินมาเท่าไหร่ก็ทำลายไม่ค่อยได้ เม็ดเลือดขาวที่โดนกระตุ้นมาก ๆ จะยิ่งปล่อยสารก่ออักเสบมาก ข้อต่อตรงนั้นจึงเริ่มมีการอักเสบออกมาให้เห็น เรียกภาวะนี้ว่าเกาท์กำเริบเฉียบพลัน (Acute gouty arthritis)

.

หากไม่รักษาแล้วปล่อยให้ยูริกสูงในเลือดต่อไป ผลึก MSU จะเริ่มตกตะกอนนอกข้อ มักจะเป็นจุดที่เหนือต่อข้อ เม็ดเลือดขาวก็พยายามมากำจัด แต่กำจัดเท่าไหร่ก็ไม่หาย หนำซ้ำยิ่งพยายามจับกิน ยิ่งปล่อยสารก่ออักเสบ เกิดแบบนี้เป็น ๆ หาย ๆ

.

สุดท้ายก้อนผลึก MSU ขนาดใหญ่จะก่อตัวขึ้นแบบอักเสบเรื้อรัง ล้อมรอบด้วยเม็ดเลือดขาวหลากหลายชนิดที่พยายามมาช่วยสถานการณ์ มีการสร้างพังผืดขึ้น บางครั้งมีการสร้างแคลเซียมมาคลุมก้อนด้วย เรียกภาวะนี้ว่าเกาท์เรื้อรังจนเต็มไปด้วยก้อนโทฟัส (Chronic tophaceous gout)

.

ก้อนโทฟัสนี้ไม่ใช่แค่ดูไม่น่ามอง แต่มันยังสามารถกดทับเนื้อเยื่อรอบ ๆ ได้ โดยเฉพาะผิวหนัง บางทีแตกออกเป็นแผล, แถมก้อนที่อักเสบเรื้อรังเป็น ๆ หาย ๆ จะปล่อยสารก่ออักเสบตลอดเวลา กระตุ้นเซลล์ชื่อ osteoclast ให้เร่งสลายกระดูก

.

สุดท้ายถ้าไม่รักษา ข้อที่อักเสบเรื้อรัง ร่วมกับก้อนโทฟัสใกล้ ๆ จะเต็มไปด้วยพังผืด (Fibrosis) ทำให้ข้อนั้นไม่สามารถใช้งานได้, บางรายมีอาการปวดเรื้อรัง, ติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำตรงจุดที่ก้อนโทฟัสแตก

.

.

สรุป: เกาต์ไม่ได้จบแค่ข้ออักเสบ แต่ผลึกยูริคสามารถจับตัวกันใหญ่ขึ้นเป็นก้อน ทำให้ข้อนิ้วผิดรูปได้ ต้องตรวจติดตามอย่างต่อเนื่อง ปรับพฤติกรรม งดสุรา หลีกเลี่ยงอาหารที่มีฟรุกโตสสูง และอาหารที่มีพิวรีนสูง ลดความอ้วน เพิ่มการออกกำลังกายค่ะ